เลียนแบบความเชื่อของเขา | โยนาธาน
“เป็นเพื่อนสนิทกัน”
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง หุบเขาเอลาห์ก็กลับสู่ความเงียบสงบ ลมอ่อน ๆ ในยามบ่ายพัดเต็นท์ทหารอิสราเอลที่ตั้งค่ายอยู่ที่นั่น กษัตริย์ซาอูลเรียกคนของเขามาประชุมกัน โยนาธานลูกชายคนโตของซาอูลก็มาด้วย เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งกำลังเล่าเรื่องด้วยความตื่นเต้น เด็กคนนี้คือดาวิด เขามีใจแรงกล้าและกระตือรือร้น ซาอูลตั้งใจฟังที่ดาวิดพูดทุกคำ แล้วโยนาธานล่ะรู้สึกอย่างไร? โยนาธานเป็นทหารที่ทำสงครามให้กับพระยะโฮวามานานและรบชนะมานับครั้งไม่ถ้วน แต่คนที่นำชัยชนะมาให้อิสราเอลในวันนี้กลับเป็นแค่เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่ง ดาวิดฆ่าโกลิอัทคนร่างยักษ์ได้! โยนาธานอิจฉาดาวิดไหม?
ปฏิกิริยาของโยนาธานอาจทำให้คุณแปลกใจก็ได้ เราอ่านว่า “หลังจากดาวิดพูดกับซาอูลแล้ว โยนาธานกับดาวิดก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน และโยนาธานรักดาวิดเท่าชีวิตของตัวเอง” โยนาธานถึงกับยกเครื่องอาวุธของเขาให้ดาวิด รวมทั้งธนูที่เขารักมาก นี่คงเป็นของขวัญที่พิเศษจริง ๆ เพราะโยนาธานมีชื่อเสียงเรื่องการยิงธนู ไม่ใช่แค่นั้น โยนาธานยังทำสัญญากับดาวิดด้วย สัญญานี้ทำให้พวกเขากลายเป็นเพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือกันตลอดชีวิต—1 ซามูเอล 18:1-5
นี่เป็นจุดเริ่มเรื่องราวของมิตรภาพที่น่าประทับใจที่สุดเรื่องหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิล เพื่อนสำคัญสำหรับความเชื่อของเรา ถ้าเราเลือกเพื่อนอย่างฉลาด และตัวเราเองก็เป็นเพื่อนที่ดีและซื่อสัตย์ ความเชื่อของเราก็จะเข้มแข็งได้แม้จะอยู่ในสมัยที่ผู้คนไม่รักกัน (สุภาษิต 27:17) ให้เรามาดูกันว่าตัวอย่างของโยนาธานสอนอะไรเราเรื่องเพื่อนแท้
พื้นฐานของความเป็นเพื่อน
ทำไมพวกเขากลายเป็นเพื่อนสนิทได้เร็วขนาดนั้น? เพื่อจะได้คำตอบเราต้องรู้ว่าอะไรเป็นพื้นฐานของมิตรภาพนี้ โยนาธานมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก กษัตริย์ซาอูลพ่อของเขานับวันก็ยิ่งชั่วร้ายขึ้นเรื่อย ๆ จากคนที่เคยเชื่อฟัง ถ่อมตัว และมีความเชื่อเข้มแข็ง ซาอูลกลายเป็นกษัตริย์ที่หยิ่งและไม่เชื่อฟัง—1 ซามูเอล 15:17-19, 26
การที่ซาอูลเปลี่ยนไปคงทำให้โยนาธานทุกข์ใจมาก เพราะเขาสนิทกับพ่อ (1 ซามูเอล 20:2) โยนาธานอาจสงสัยว่าซาอูลจะสร้างปัญหาอะไรให้กับประชาชนของพระยะโฮวาอีก เป็นไปได้ไหมว่าการไม่เชื่อฟังของซาอูลจะทำให้ทั้งชาติหลงผิดและไม่ได้รับความโปรดปรานจากพระยะโฮวา? ช่วงนั้นคนที่มีความเชื่อเข้มแข็งอย่างโยนาธานคงเครียดมากแน่ ๆ
เมื่อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้น เราก็เข้าใจได้ว่าทำไมโยนาธานถึงชอบดาวิด โยนาธานเห็นว่าดาวิดมีความเชื่อมาก อย่าลืมว่าดาวิดไม่เหมือนกับพวกทหารของซาอูล เขาไม่กลัวโกลิอัทที่ตัวใหญ่กว่าเขามาก ดาวิดเชื่อมั่นว่าถ้าเขาสู้ในนามของพระยะโฮวา เขาจะเอาชนะอาวุธทุกอย่างของโกลิอัทได้—1 ซามูเอล 17:45-47
โยนาธานก็มีความคิดคล้าย ๆ กัน หลายปีก่อนหน้านั้น เขามั่นใจว่าเขากับคนถืออาวุธของเขาจะเอาชนะกองทหารรักษาการณ์ที่มีอาวุธครบมือได้ ทำไมโยนาธานมั่นใจขนาดนั้น? เขาบอกว่า ‘ไม่มีอะไรจะขัดขวางพระยะโฮวาได้’ (1 ซามูเอล 14:6) เห็นได้ชัดว่า โยนาธานกับดาวิดมีความเชื่อที่เข้มแข็งและรักพระยะโฮวาสุดหัวใจเหมือนกัน นี่เป็นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนที่มั่นคงที่สุด แม้โยนาธานจะเป็นถึงเจ้าชายและอายุเกือบ 50 แล้ว ส่วนดาวิดก็เป็นแค่เด็กเลี้ยงแกะอายุอาจจะไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ แต่ทั้งสองก็เป็นเพื่อนกันได้ a
สัญญาที่พวกเขาทำก็ช่วยรักษามิตรภาพที่แน่นแฟ้นเอาไว้ เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? อย่างที่คุณรู้ ดาวิดรู้ดีว่าพระยะโฮวาสัญญาอะไรกับเขา พระองค์จะให้เขาเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปของอิสราเอล! ดาวิดจะบอกเรื่องนี้กับโยนาธานไหม? แน่นอน คนสองคนจะเป็นเพื่อนสนิทกันได้ก็ต้องไม่มีความลับต่อกัน ไม่โกหกกัน และพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง โยนาธานรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าดาวิดจะได้เป็นกษัตริย์ต่อจากซาอูล? เขายังหวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นกษัตริย์และแก้ไขเรื่องเลวร้ายที่พ่อทำไว้ไหม? คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้บอกว่าโยนาธานคิดอย่างนั้นหรือไม่ แต่บอกว่าเขาเป็นคนที่ภักดีและมีความเชื่อ เขามองออกว่าพลังของพระยะโฮวาอยู่กับดาวิด (1 ซามูเอล 16:1, 11-13) หลังจากนั้น โยนาธานก็ยังทำตามที่สัญญาไว้กับดาวิด และยังถือว่าดาวิดเป็นเพื่อนไม่ใช่คู่แข่ง โยนาธานอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่พระยะโฮวาต้องการ
โยนาธานกับดาวิดมีความเชื่อเข้มแข็งและรักพระยะโฮวาสุดหัวใจเหมือนกัน
มิตรภาพแบบนี้นำสิ่งดีมามากมาย เราเรียนอะไรได้จากความเชื่อของโยนาธาน? ผู้รับใช้ของพระเจ้าทุกคนต้องมองว่ามิตรภาพเป็นสิ่งที่มีค่า เพื่อนไม่จำเป็นต้องอายุเท่ากันหรือมีภูมิหลังเหมือนกัน ถ้าเขามีความเชื่อมั่นคงในพระเจ้า เขาก็จะเป็นเพื่อนที่ดีและช่วยเราได้มากจริง ๆ เหมือนโยนาธานกับดาวิดที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจกันหลายครั้งหลายหน พวกเขาต้องการกำลังใจแบบนั้น เพราะอีกไม่นานพวกเขาต้องเจอเหตุการณ์ที่ทดสอบความเชื่อหนักกว่าเดิม
จะภักดีต่อใคร?
ตอนแรกซาอูลรักดาวิดมากและตั้งเขาเป็นหัวหน้ากองทหาร แต่ไม่นานซาอูลก็อิจฉาดาวิด ซึ่งโยนาธานไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลย ดาวิดรบชนะชาวฟีลิสเตียศัตรูของอิสราเอลหลายต่อหลายครั้ง เขาจึงได้รับการยกย่องและเป็นที่ชื่นชอบ ผู้หญิงอิสราเอลบางคนถึงกับร้องเพลงว่า “ซาอูลฆ่าศัตรูเป็นพัน ๆ และดาวิดฆ่าศัตรูเป็นหมื่น ๆ” ซาอูลเกลียดเพลงนี้ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ตั้งแต่วันนั้น ซาอูลคอยจับตาดูดาวิดตลอดเวลา” (1 ซามูเอล 18:7, 9) ซาอูลกลัวว่าดาวิดจะแย่งตำแหน่งกษัตริย์ไป เขาโง่มากที่คิดอย่างนั้น จริงอยู่ดาวิดรู้ว่าเขาจะได้เป็นกษัตริย์ต่อจากซาอูล แต่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดโค่นบัลลังก์กษัตริย์ที่พระยะโฮวาแต่งตั้งเลย
ซาอูลวางแผนให้ดาวิดถูกศัตรูฆ่าในสนามรบ แต่ก็ไม่สำเร็จ ดาวิดรบชนะทุกครั้งและประชาชนก็ยิ่งรักและนับถือเขามากขึ้นไปอีก ซาอูลจึงเรียกทุกคนในครอบครัว รวมทั้งคนรับใช้และโยนาธานลูกชายคนโตให้มาช่วยกันหาวิธีฆ่าดาวิด คิดดูซิว่าโยนาธานจะผิดหวังและเสียใจขนาดไหนที่เห็นพ่อทำแบบนั้น! (1 ซามูเอล 18:25-30; 19:1) โยนาธานเป็นลูกที่จงรักภักดี แต่เขาก็เป็นเพื่อนที่ภักดีด้วย ถ้าโยนาธานต้องเลือก เขาจะภักดีต่อใคร?
โยนาธานพูดว่า “ขอให้กษัตริย์อย่าทำร้ายดาวิดผู้รับใช้ของท่านเลย เพราะเขาไม่เคยทำร้ายท่าน มีแต่ทำประโยชน์ให้ท่านทั้งนั้น เขาเสี่ยงชีวิตไปฆ่าโกลิอัท และพระยะโฮวาช่วยให้อิสราเอลได้ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ท่านเองก็เห็นและยังดีใจเลย แล้วท่านจะฆ่าดาวิดทำไมทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด?” ปกติซาอูลไม่ฟังเหตุผลเลย แต่คราวนี้เขากลับยอมฟังโยนาธาน และถึงกับสาบานว่าจะไม่ฆ่าดาวิด แต่ซาอูลไม่ใช่คนรักษาสัญญา หลังจากที่ดาวิดประสบความสำเร็จมากขึ้น ซาอูลก็โกรธและอิจฉามากกว่าเดิมจนวันหนึ่งเขาก็พุ่งหอกใส่ดาวิด! (1 ซามูเอล 19:4-6, 9, 10) แต่ดาวิดหลบทันและหนีออกจากวังไปได้
คุณเคยต้องเลือกไหมว่าจะภักดีต่อใคร? คุณคงเจ็บปวดมาก บางคนอาจบอกว่าน่าจะเลือกครอบครัวก่อน แต่โยนาธานรู้ว่าการทำแบบนั้นไม่ถูกต้อง เขาจะเลือกอยู่ฝ่ายพ่อได้อย่างไรล่ะในเมื่อพ่อต่อต้านดาวิดซึ่งเชื่อฟังและภักดีต่อพระยะโฮวา? โยนาธานต้องอยู่ฝ่ายคนที่ภักดีต่อการปกครองของพระยะโฮวาอยู่แล้ว นี่เป็นเหตุผลที่โยนาธานกล้าปกป้องดาวิด แต่ถึงเขาเลือกภักดีต่อพระเจ้ามากที่สุด เขาก็ภักดีต่อพ่อของเขาด้วย โดยให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมาแทนที่จะพูดเอาใจพ่อ เราทุกคนจะได้ประโยชน์ถ้าเราเลียนแบบโยนาธาน
ความภักดีก่อผลดีมากมาย
โยนาธานพยายามอีกครั้งที่จะช่วยให้ซาอูลคืนดีกับดาวิด แต่สถานการณ์กลับแย่กว่าเดิม ดาวิดแอบมาหาโยนาธานเพราะกลัวถูกฆ่า เขาบอกโยนาธานว่า “อีกไม่นานผมต้องถูกฆ่าแน่ ๆ” โยนาธานจึงหาทางทดสอบดูว่าตอนนี้ซาอูลรู้สึกอย่างไรกับดาวิดเพื่อจะบอกให้ดาวิดรู้ตัว เขาบอกให้ดาวิดไปซ่อนตัว แล้วเขาก็จะยิงธนูส่งสัญญาณให้ดาวิดรู้ โยนาธานขอแค่ให้ดาวิดสัญญาว่า “ถ้าถึงเวลาที่พระยะโฮวากำจัดศัตรูของคุณให้หมดไปจากโลก ก็ขอให้คุณรักและเมตตาวงศ์ตระกูลของผมเสมอ” ดาวิดรับปากว่าจะไม่ทอดทิ้งคนในวงศ์ตระกูลของโยนาธาน—1 ซามูเอล 20:3, 13-27
ตอนที่โยนาธานคุยกับซาอูล เขาพยายามพูดปกป้องดาวิด แต่กษัตริย์กลับโมโหและเรียกโยนาธานว่า “ไอ้ลูกทรยศ!” และบอกว่าการที่โยนาธานเข้าข้างดาวิดทำให้ครอบครัวต้องอับอายขายหน้า ซาอูลพยายามพูดให้โยนาธานคิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองว่า “ตราบใดที่ลูกชายเจสซียังมีชีวิตอยู่บนโลก แกจะไม่ได้ปกครองเป็นกษัตริย์อย่างมั่นคงแน่” แต่โยนาธานไม่คล้อยตาม แถมยังขอร้องพ่อว่า “จะฆ่าเขาทำไม? เขาทำผิดอะไร?” ซาอูลโกรธมากจนถึงกับพุ่งหอกใส่ลูกตัวเอง! แม้จะอายุมากแล้วซาอูลก็ยังเป็นนักรบที่เก่งกล้าสามารถ แต่ถึงจะเก่งแค่ไหนหอกนั้นพลาดเป้า โยนาธานลุกออกไปทันทีทั้งโกรธทั้งอับอายและเสียใจมาก—1 ซามูเอล 20:24-34
โยนาธานพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว
เช้าวันถัดมา โยนาธานก็ออกไปนอกเมืองใกล้กับที่ซ่อนของดาวิด แล้วยิงธนูส่งสัญญาณให้ดาวิดรู้ว่าซาอูลยังตั้งใจจะฆ่าเขา จากนั้นโยนาธานก็ให้เด็กรับใช้กลับเข้าไปในเมือง พอดาวิดกับโยนาธานได้อยู่กันตามลำพังพวกเขาก็คุยกัน ทั้งสองคนร้องไห้ โยนาธานเสียใจมากที่ต่อไปนี้ดาวิดเพื่อนรักของเขาจะต้องคอยหลบหนีจากซาอูลที่กำลังตามฆ่า—1 ซามูเอล 20:35-42
โยนาธานพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนภักดีและไม่เห็นแก่ตัว ซาตานเป็นศัตรูของทุกคนที่ซื่อสัตย์ มันต้องอยากเห็นโยนาธานทำเหมือนซาอูลที่คิดถึงอำนาจและชื่อเสียงเกียรติยศของตัวเองเป็นอันดับแรก และอย่าลืมว่า ซาตานชอบล่อลวงคนเราให้ทำตามความต้องการที่เห็นแก่ตัว มันล่อลวงอาดัมกับเอวามนุษย์คู่แรกสำเร็จ (ปฐมกาล 3:1-6) แต่โยนาธานไม่ตกเป็นเหยื่อของซาตาน มันคงโมโหมาก ถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะยอมเป็นเหยื่อของมันไหม? เราอยู่ในสมัยที่มีแต่คนเห็นแก่ตัว (2 ทิโมธี 3:1-5) เราจะเลียนแบบความภักดีและไม่เห็นแก่ตัวของโยนาธานได้ไหม?
“ผมรักคุณมากเหลือเกิน”
ซาอูลเกลียดดาวิดมากจนคลุ้มคลั่งเหมือนคนบ้า โยนาธานได้แต่มองดูพ่อของเขายกทหารทั้งกองออกไปไล่ล่าดาวิดอย่างบ้าคลั่ง ซาอูลแทบพลิกแผ่นดินเพื่อตามฆ่าคนคนเดียวซึ่งไม่ได้ทำอะไรผิดเลย (1 ซามูเอล 24:1, 2, 12-15; 26:20) โยนาธานร่วมมือกับพ่อไหม? น่าสนใจ คัมภีร์ไบเบิลไม่เคยบอกว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องชั่วร้ายนี้ โยนาธานไม่มีทางทำอย่างนั้น เพราะเขาภักดีต่อพระยะโฮวา ต่อดาวิด และรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรัก
ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร โยนาธานก็ยังภักดีต่อดาวิดไม่เคยเปลี่ยน ต่อมา เขาหาทางไปเจอดาวิดอีกครั้งที่โฮเรช ซึ่งแปลว่า “ป่าไม้” โฮเรชอยู่ในที่กันดารซึ่งเป็นเขตเทือกเขาห่างจากเมืองเฮโบรนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ไม่กี่กิโลเมตร ทำไมโยนาธานถึงยอมเสี่ยงชีวิตไปหาดาวิด? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าเขาตั้งใจไปหาดาวิดเพื่อช่วยให้ “มั่นใจในพระยะโฮวามากขึ้น” (1 ซามูเอล 23:16) โยนาธานช่วยดาวิดอย่างไร?
โยนาธานบอกดาวิดว่า “ไม่ต้องกลัวนะ” และให้ความมั่นใจกับดาวิดด้วยว่า “พ่อผมหาคุณไม่เจอหรอก” ทำไมเขาถึงมั่นใจขนาดนั้น? เพราะโยนาธานเชื่อมั่นว่าพระยะโฮวาจะทำให้คำสัญญาของพระองค์เป็นจริง เขาบอกดาวิดด้วยว่า “คุณจะได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล” พระยะโฮวาสั่งให้ซามูเอลพยากรณ์เรื่องนี้ไว้หลายปีมาแล้ว และการที่โยนาธานพูดย้ำเรื่องนี้อีกครั้งช่วยให้ดาวิดมั่นใจว่าคำพูดของพระยะโฮวาเชื่อถือได้เสมอ แล้วตัวเขาเองล่ะ? เขาบอกว่า “ผมจะเป็นที่สองรองจากคุณ” ผู้ชายคนนี้ถ่อมตัวจริง ๆ! ทั้งที่ดาวิดอายุน้อยกว่าเขาถึง 30 ปี เขาก็เต็มใจอยู่ใต้อำนาจและสนับสนุนดาวิดด้วยความภักดี โยนาธานทิ้งท้ายว่า “ซาอูลพ่อของผมก็รู้เรื่องนี้” (1 ซามูเอล 23:17, 18) ลึก ๆ แล้วซาอูลรู้ดีว่าเขาไม่มีทางเอาชนะคนที่พระยะโฮวาเลือกให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปได้เลย!
หลายปีต่อมา ดาวิดคงคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นบ่อย ๆ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบกัน แต่น่าเศร้า โยนาธานไม่ได้เป็นที่สองรองจากดาวิดอย่างที่ตั้งใจไว้
โยนาธานติดตามซาอูลออกไปรบกับพวกฟีลิสเตียศัตรูคู่อาฆาตของอิสราเอล ไม่ว่าซาอูลจะทำสิ่งไม่ดีขนาดไหน โยนาธานก็ไม่ปล่อยให้เรื่องนั้นรบกวนความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เขายังรับใช้พระยะโฮวาต่อไปโดยออกไปรบเคียงข้างพ่อของเขา โยนาธานต่อสู้อย่างกล้าหาญและภักดีเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้ทหารอิสราเอลพ่ายแพ้ ซาอูลยอมให้ความชั่วครอบงำถึงขนาดที่ไปปรึกษาคนทรง ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมายของพระเจ้า พระยะโฮวาจึงไม่อวยพรซาอูลอีกต่อไป ลูกชายของเขา 3 คนรวมทั้งโยนาธานถูกฆ่าในสนามรบ ซาอูลได้รับบาดเจ็บและฆ่าตัวตาย—1 ซามูเอล 28:6-14; 31:2-6
โยนาธานบอกดาวิดว่า “คุณจะได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ผมจะเป็นที่สองรองจากคุณ”—1 ซามูเอล 23:17
ดาวิดเสียใจมาก เขายังเสียใจที่ซาอูลตายด้วยทั้ง ๆ ที่ซาอูลทำให้เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนและมีชีวิตที่ลำบาก ดาวิดเป็นคนดีที่พร้อมจะให้อภัยจริง ๆ เขาแต่งเพลงไว้อาลัยซาอูลกับโยนาธานด้วย เนื้อเพลงท่อนที่กินใจที่สุดน่าจะเป็นตรงที่เขาพูดถึงโยนาธานซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาของเขาว่า “โยนาธานพี่ชายของผม ผมเสียใจจริง ๆ ที่คุณจากไป ผมรักคุณมากเหลือเกิน ความรักที่คุณมีให้ผมนั้นยิ่งใหญ่กว่าความรักของพวกผู้หญิง”—2 ซามูเอล 1:26
ดาวิดไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับโยนาธาน หลายปีต่อมาเขาตามหาเมฟีโบเชทลูกชายที่พิการของโยนาธานและรับมาอยู่ด้วย (2 ซามูเอล 9:1-13) เห็นได้ชัดว่า ดาวิดได้เรียนจากตัวอย่างของโยนาธานในเรื่องความภักดี การให้เกียรติคนอื่น และเต็มใจที่จะซื่อสัตย์ภักดีต่อเพื่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะเลียนแบบโยนาธานได้ไหม? เราจะหาเพื่อนที่ภักดีแบบโยนาธานได้ไหม และเราจะเป็นเพื่อนแบบนั้นด้วยได้ไหม? ได้แน่นอน ถ้าเราช่วยเพื่อนให้มีความเชื่อที่เข้มแข็งในพระยะโฮวา ถ้าเราภักดีต่อพระยะโฮวาเป็นอันดับแรก และซื่อสัตย์ภักดีเสมอไม่ว่าตัวเองจะเสียประโยชน์อะไร เราก็กำลังเลียนแบบความเชื่อของโยนาธาน
a คัมภีร์ไบเบิลพูดถึงโยนาธานครั้งแรกในช่วงที่ซาอูลเพิ่งเริ่มปกครอง โยนาธานเป็นหัวหน้ากองทหารซึ่งแสดงว่าเขาต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี (กันดารวิถี 1:3; 1 ซามูเอล 13:2) ซาอูลปกครอง 40 ปี ดังนั้น ตอนที่เขาตาย โยนาธานก็คงอายุประมาณ 60 ปี ส่วนดาวิดก็อายุ 30 ปี (1 ซามูเอล 31:2; 2 ซามูเอล 5:4) ดังนั้น โยนาธานก็น่าจะอายุมากกว่าดาวิดประมาณ 30 ปี