ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความผิดพลาดที่ทำให้เกิดสงครามโลก

ความผิดพลาดที่ทำให้เกิดสงครามโลก

ความ​ผิด​พลาด​ที่​ทำ​ให้​เกิด​สงคราม​โลก

สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สาม​อาจ​เกิด​ขึ้น​ได้​โดย​ไม่​ตั้งใจ​ไหม? เป็น​ไป​ได้​ไหม​ที่​พวก​ผู้​นำ​รัฐบาล​และ​ที่​ปรึกษา​ทาง​ทหาร​คาด​คะเน​สถานการณ์​ผิด​พลาด​อย่าง​ร้ายแรง​และ​ทำ​ให้​มนุษย์​นับ​ล้าน​ต้อง​เสีย​ชีวิต?

เรา​ไม่​รู้. แต่​ที่​เรา​รู้​คือ​เหตุ​การณ์​เช่น​นั้น​เคย​เกิด​ขึ้น​แล้ว. เมื่อ​หนึ่ง​ศตวรรษ​ที่​แล้ว ผู้​นำ​รัฐบาล​ต่าง ๆ ใน​ยุโรป​ได้​พา​ชาติ​ของ​ตน​เข้า​สู่​มหา​สงคราม ซึ่ง​ต่อ​มา​ถูก​เรียก​ว่า​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1 โดย​ที่​พวก​เขา​ไม่​รู้​เลย​ว่า​เหตุ​การณ์​ที่​จะ​ตาม​มา​น่า​สะพรึงกลัว​ขนาด​ไหน. เดวิด ลอยด์ จอร์จ นายก​รัฐมนตรี​แห่ง​บริเตน​ระหว่าง​ปี 1916-1922 กล่าว​ว่า “เรา​เข้า​สู่​สงคราม​อย่าง​ไม่​รู้​เนื้อ​รู้​ตัว.” ให้​เรา​มา​ดู​เหตุ​การณ์​สำคัญ ๆ ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​การ​ฆ่า​ฟัน​กัน​อย่าง​น่า​สยดสยอง.

นัก​ประวัติศาสตร์​ชื่อ เอ. เจ. พี. เทย์เลอร์ เขียน​ว่า “ใน​ตอน​นั้น​ไม่​มี​ผู้​นำ​รัฐบาล​คน​ใด​ต้องการ​ให้​เกิด​สงคราม​ที่​ลุก​ลาม​ไป​ทั่ว​โลก. แต่​พวก​เขา​ต้องการ​ข่มขู่​และ​เอา​ชนะ.” พระเจ้า​ซาร์​แห่ง​รัสเซีย​คิด​ว่า​ต้อง​ทำ​ทุก​วิถี​ทาง​เพื่อ​คง​ไว้​ซึ่ง​สันติภาพ. ท่าน​ไม่​ต้องการ​เป็น​ผู้​รับผิดชอบ​ต่อ​การ​รบรา​ฆ่า​ฟัน​กัน​อย่าง​โหด​เหี้ยม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม กระสุน​สอง​นัด​ที่​ยิง​ออก​ไป​ราว ๆ 11:15 น. ใน​วัน​ที่ 28 มิถุนายน 1914 ก็​จุด​ชนวน​ให้​เหตุ​การณ์​บานปลาย​จน​เกิน​จะ​ควบคุม​ได้.

กระสุน​สอง​นัด​ที่​เปลี่ยน​โลก

พอ​ถึง​ปี 1914 การ​แข่งขัน​กัน​ระหว่าง​ชาติ​มหาอำนาจ​ใน​ยุโรป​ที่​ดำเนิน​มา​อย่าง​ยืดเยื้อ​ยาว​นาน​ทำ​ให้​ชาติ​ต่าง ๆ เกิด​ความ​ตึงเครียด​เป็น​อย่าง​มาก อีก​ทั้ง​ทำ​ให้​เกิด​พันธมิตร​สอง​ฝ่าย​ที่​เป็น​ปฏิปักษ์​กัน: ฝ่าย​หนึ่ง​คือ​สนธิสัญญา​พันธไมตรี​ไตรภาคี ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​ออสเตรีย-ฮังการี, อิตาลี, และ​เยอรมนี ส่วน​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​คือ​ความ​ตก​ลง​ไตรภาคี ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​บริเตน, ฝรั่งเศส, และ​รัสเซีย. ยิ่ง​กว่า​นั้น ชาติ​เหล่า​นี้​มี​ความ​ผูก​พัน​ทาง​การ​เมือง​และ​เศรษฐกิจ​กับ​ชาติ​อื่น ๆ อีก​หลาย​ชาติ​รวม​ทั้ง​แถบ​คาบสมุทร​บอลข่าน.

ใน​ตอน​นั้น​แถบ​คาบสมุทร​บอลข่าน​เป็น​พื้น​ที่​ที่​อ่อนไหว​ทาง​การ​เมือง เนื่อง​จาก​ถูก​ชาติ​ที่​มี​อำนาจ​เข้มแข็ง​กว่า​แย่ง​ชิง และ​ภูมิภาค​แถบ​นี้​มี​องค์กร​ลับ​มาก​มาย​ที่​วาง​แผน​จะ​แยก​ตน​เป็น​เอกราช. ใน​พื้น​ที่​นี้​เอง​มี​วัยรุ่น​กลุ่ม​เล็ก ๆ กลุ่ม​หนึ่ง​วาง​แผน​จะ​ลอบ​สังหาร​อาร์ชดุ๊ก​ฟรานซิส เฟอร์ดินันด์ แห่ง​ออสเตรีย​ขณะ​มา​เยือน​กรุง​ซาราเยโว นคร​หลวง​แห่ง​บอสเนีย​ใน​วัน​ที่ 28 มิถุนายน. * เนื่อง​จาก​มี​ตำรวจ​คุ้ม​กัน​อยู่​ไม่​มาก​พวก​เขา​จึง​ปฏิบัติการ​ได้​ง่าย​ขึ้น. แต่​พวก​ที่​จะ​ลอบ​สังหาร​แทบ​ไม่​ได้​รับ​การ​ฝึกฝน​มา​เลย. วัยรุ่น​คน​หนึ่ง​ขว้าง​ระเบิด​ลูก​เล็ก ๆ ใส่​แต่​พลาด​เป้า ส่วน​คน​อื่น ๆ ก็​ไม่​ได้​ลง​มือ​เมื่อ​ถึง​เวลา. ผู้​ร่วม​ก่อ​การ​อีก​คน​หนึ่ง​คือ​กาฟริโล ปรินซิพ​ทำ​สำเร็จ​ก็​เพราะ​ความ​บังเอิญ​แท้ ๆ. เหตุ​การณ์​เป็น​อย่าง​ไร?

เมื่อ​ปรินซิพ​เห็น​อาร์ชดุ๊ก​นั่ง​รถ​ผ่าน​ไป​โดย​ไม่​ได้​รับ​อันตราย​ใด ๆ จาก​ระเบิด เขา​จึง​พยายาม​จะ​เข้า​ไป​ที่​รถ​แต่​เข้า​ไม่​ได้. เขา​ข้าม​ถนน​ไป​ที่​ร้าน​กาแฟ​ด้วย​ความ​หมด​หวัง. ระหว่าง​นั้น อาร์ชดุ๊ก​ซึ่ง​กำลัง​ฉุนเฉียว​เพราะ​การ​ขว้าง​ระเบิด​ได้​ตัดสิน​ใจ​เปลี่ยน​เส้น​ทาง​การ​เดิน​ทาง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม คน​ขับ​รถ​ไม่​รู้​ว่า​มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​กำหนดการ​เขา​จึง​ขับ​รถ​ไป​ผิด​ทาง และ​จำเป็น​ต้อง​เลี้ยว​รถ​กลับ. ขณะ​นั้น​เอง ปรินซิพ​เดิน​ออก​มา​จาก​ร้าน​กาแฟ และ​เห็น​อาร์ชดุ๊ก​นั่ง​ใน​รถ​เปิด​ประทุน​ห่าง​ออก​ไป​ไม่​ถึง​สาม​เมตร. ปรินซิพ​เข้า​ไป​ใกล้​รถ​แล้ว​ยิง​ปืน​สอง​นัด ทำ​ให้​อาร์ชดุ๊ก​และ​ชายา​สิ้น​พระ​ชนม์. * ปรินซิพ​ซึ่ง​เป็น​นัก​ชาติ​นิยม​ชาว​เซิร์บ​ที่​ไม่​ประสีประสา​ไม่​รู้​เลย​ว่า​ตน​ได้​จุด​ชนวน​ให้​เกิด​เหตุ​การณ์​อะไร​ขึ้น​บ้าง. แต่​ก็​ไม่​อาจ​โทษ​เขา​เพียง​คน​เดียว​ได้​สำหรับ​ความ​สยดสยอง​ที่​ตาม​มา.

พร้อม​ทำ​สงคราม

ก่อน​ปี 1914 ชาว​ยุโรป​ส่วน​ใหญ่​คิด​ว่า​การ​ทำ​สงคราม​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​เชิดชู. พวก​เขา​มอง​ว่า​สงคราม​มี​ประโยชน์, น่า​ยกย่อง, และ​มี​เกียรติ​ทั้ง ๆ ที่​พวก​เขา​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน. ผู้​นำ​รัฐบาล​บาง​คน​ถึง​กับ​เชื่อ​ว่า​สงคราม​จะ​ผนึก​ชาติ​ของ​ตน​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว​และ​ปลุก​เร้า​ประชาชน​ให้​ฮึกเหิม! นอก​จาก​นั้น แม่ทัพ​บาง​คน​ก็​รับรอง​กับ​พวก​ผู้​นำ​ของ​ตน​ว่า​ฝ่าย​ตน​จะ​ชนะ​สงคราม​ได้​อย่าง​เด็ดขาด​ภาย​ใน​เวลา​อัน​รวด​เร็ว. แม่ทัพ​ชาว​เยอรมัน​คน​หนึ่ง​คุย​โว​ว่า “เรา​จะ​ยึด​ฝรั่งเศส​ได้​ภาย​ใน​สอง​สัปดาห์.” ไม่​มี​ใคร​คาด​คิด​เลย​ว่า​ชาย​หนุ่ม​นับ​ล้าน ๆ คน​จะ​ต้อง​ไป​รบ​อยู่​ใน​สนาม​เพลาะ​เป็น​เวลา​หลาย​ปี.

ยิ่ง​กว่า​นั้น หนังสือ​การ​ร่วม​มือ​กัน​ภาย​ใต้​อนาธิปไตย (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า ใน​ช่วง​ก่อน​สงคราม “ความ​คลั่ง​ชาติ​แบบ​สุด​ขั้ว​แผ่​คลุม​ไป​ทั่ว​ยุโรป. โรง​เรียน, มหาวิทยาลัย, หนังสือ​พิมพ์, และ​นัก​การ​เมือง​ต่าง​ก็​ส่ง​เสริม​ความ​คิด​เรื่อง​ชาติ​นิยม​ที่​สุด​โต่ง​รวม​ทั้ง​การ​แสวง​หา​เกียรติยศ​ให้​ตัว​เอง.”

พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​แทบ​ไม่​ได้​ห้าม​ปราม​ประชาชน​ให้​เลิก​ความ​คิด​ที่​มุ่ง​ล้าง​ผลาญ​กัน. นัก​ประวัติศาสตร์​ชื่อ​พอล จอห์นสัน​กล่าว​ว่า “ฝ่าย​หนึ่ง​ก็​คือ​เยอรมนี​ที่​เป็น​โปรเตสแตนต์, ออสเตรีย​ที่​เป็น​คาทอลิก, บัลแกเรีย​ที่​เป็น​ออร์โทด็อกซ์​และ​ตุรกี​ที่​เป็น​มุสลิม. ส่วน​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​คือ​บริเตน​ที่​เป็น​โปรเตสแตนต์ ฝรั่งเศส​และ​อิตาลี​ที่​เป็น​คาทอลิก, และ​รัสเซีย​ที่​เป็น​ออร์โทด็อกซ์.” เขา​กล่าว​เสริม​ว่า นัก​เทศน์​นัก​บวช​ส่วน​ใหญ่ “ถือ​ว่า​ถ้า​เป็น​คริสเตียน​ก็​ต้อง​รัก​ประเทศ​ชาติ. ทหาร​ที่​อ้าง​ว่า​เป็น​คริสเตียน​จาก​ทุก​นิกาย​ถูก​ปลุก​เร้า​ให้​ฆ่า​กัน​เอง​ใน​นาม​ของ​พระ​ผู้​ช่วย​ให้​รอด.” แม้​แต่​บาทหลวง​กับ​แม่ชี​ก็​ถูก​ระดม​ไป​สู้​รบ และ​ต่อ​มา​บาทหลวง​หลาย​พัน​คน​เสีย​ชีวิต​ระหว่าง​การ​รบ.

เจตนารมณ์​ของ​พันธมิตร​ฝ่าย​ต่าง ๆ ใน​ยุโรป​ก็​เพื่อ​ป้องกัน​ไม่​ให้​เกิด​สงคราม​ขนาด​ใหญ่ แต่​พันธมิตร​ฝ่าย​ต่าง ๆ อาจ​มี​ส่วน​ทำ​ให้​เกิด​สงคราม​เสีย​เอง. โดย​วิธี​ใด? หนังสือ​การ​ร่วม​มือ​กัน​ภาย​ใต้​อนาธิปไตย กล่าว​ว่า “ความ​มั่นคง​ของ​ประเทศ​ใหญ่ ๆ ใน​ยุโรป​เกี่ยว​พัน​กัน​อย่าง​เหนียวแน่น. แต่​ละ​ประเทศ​รู้สึก​ว่า​ความ​มั่นคง​ของ​ตน​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​มั่นคง​ของ​ประเทศ​พันธมิตร และ​จึง​คิด​ว่า​ต้อง​รีบ​ไป​ช่วย​ปก​ป้อง​พันธมิตร​ของ​ตน แม้​ว่า​ประเทศ​นั้น​จะ​เป็น​ฝ่าย​ยั่ว​ยุ​ให้​เกิด​การ​โจมตี​ก็​ตาม.”

ปัจจัย​เสี่ยง​อีก​อย่าง​หนึ่ง​คือ แผน​ชลีฟเฟน​ของ​เยอรมนี​ซึ่ง​ถูก​ตั้ง​ชื่อ​ตาม​อดีต​ผู้​บัญชา​การ​ทหาร​สูง​สุด​ของ​เยอรมนี นาย​พล​อัลเฟรด ฟอน ชลีฟเฟน. แผน​นี้​ซึ่ง​กำหนด​ให้​มี​การ​จู่​โจม​ระลอก​แรก​อย่าง​ฉับ​ไว ถูก​ร่าง​ขึ้น​บน​สมมุติฐาน​ที่​ว่า เยอรมนี​จะ​ต้อง​สู้​กับ​ทั้ง​ฝรั่งเศส​และ​รัสเซีย. ดัง​นั้น เป้าหมาย​คือ​พิชิต​ฝรั่งเศส​อย่าง​รวด​เร็ว​ขณะ​ที่​รัสเซีย​ยัง​ระดม​พล​อยู่ แล้ว​จึง​ค่อย​มา​โจมตี​รัสเซีย. สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก กล่าว​ว่า “เมื่อ​เริ่ม​ดำเนิน​การ​ตาม​แผน [ชลีฟเฟน] การ​ที่​ฝ่าย​ต่าง ๆ เป็น​พันธมิตร​กัน​ทาง​ทหาร​ทำ​ให้​แทบ​จะ​แน่​ใจ​ได้​เลย​ว่า​ต้อง​เกิด​สงคราม​ใหญ่​ไป​ทั่ว​ยุโรป.”

เหตุ​การณ์​เริ่ม​ลุก​ลาม

แม้​ว่า​การ​สืบสวน​อย่าง​เป็น​ทาง​การ​ไม่​พบ​หลักฐาน​ที่​จะ​เอา​ผิด​กับ​รัฐบาล​เซอร์เบีย​ใน​เหตุ​การณ์​ลอบ​สังหาร​อาร์ชดุ๊ก ออสเตรีย​ก็​ยัง​ตั้งใจ​จะ​ยุติ​การ​ก่อกวน​ของ​ชาว​สลาฟ​ให้​หมด​สิ้น​ไป​จาก​จักรวรรดิ. นัก​ประวัติศาสตร์​ชื่อ เจ. เอ็ม. โรเบิตส์ กล่าว​ว่า ออสเตรีย​ต้องการ “สอน​บทเรียน​ให้​เซอร์เบีย.”

ด้วย​ความ​พยายาม​ที่​จะ​ปลด​ชนวน​ความ​ตึงเครียด นิโคลัส ฮาร์ท​วิก เอก​อัครราชทูต​รัสเซีย​ประจำ​นคร​หลวง​ของ​เซอร์เบีย ดำเนิน​การ​เพื่อ​จะ​ไกล่เกลี่ย​ข้อ​พิพาท. แต่​เขา​หัวใจ​วาย​และ​เสีย​ชีวิต​ขณะ​พบ​กับ​ผู้​แทน​ของ​ออสเตรีย. ใน​ที่​สุด วัน​ที่ 23 กรกฎาคม ออสเตรีย​ส่ง​ข้อ​เรียก​ร้อง​ต่าง ๆ มา​ให้​เซอร์เบีย​ซึ่ง​เท่า​กับ​เป็น​การ​ยื่น​คำ​ขาด. เนื่อง​จาก​เซอร์เบีย​ไม่​อาจ​ยอม​รับ​ข้อ​เรียก​ร้อง​ทั้ง​หมด​ได้ ออสเตรีย​จึง​ตัด​ความ​สัมพันธ์​ทาง​การ​ทูต​ทันที. ใน​ช่วง​วิกฤติ​นั้น​เอง การ​เจรจา​ทาง​การ​ทูต​ก็​ขาด​สะบั้น.

ถึง​กระนั้น ยัง​มี​ความ​พยายาม​อยู่​บ้าง​ที่​จะ​ป้องกัน​ไม่​ให้​เกิด​สงคราม. ตัว​อย่าง​เช่น สหราชอาณาจักร​เสนอ​แนะ​ให้​มี​การ​ประชุม​ระหว่าง​ชาติ และ​ไคเซอร์​แห่ง​เยอรมนี​ขอร้อง​พระเจ้า​ซาร์​แห่ง​รัสเซีย​ไม่​ให้​เคลื่อน​พล. แต่​เหตุ​การณ์​บานปลาย​จน​เกิน​จะ​ควบคุม​ได้. หนังสือ​กิจการ​แห่ง​สงคราม (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “บรรดา​ผู้​นำ​รัฐบาล, เหล่า​นาย​พล, และ​คน​ใน​ชาติ​ต่าง​ก็​ตื่น​ตระหนก​กับ​เหตุ​การณ์​ร้ายแรง​ซึ่ง​กำลัง​จะ​เกิด​ขึ้น.”

จักรพรรดิ​ออสเตรีย​ซึ่ง​ได้​รับ​คำ​มั่น​จาก​เยอรมนี​ว่า​จะ​ให้​การ​สนับสนุน ได้​ประกาศ​สงคราม​กับ​เซอร์เบีย​เมื่อ​วัน​ที่ 28 กรกฎาคม. รัสเซีย​สนับสนุน​เซอร์เบีย และ​พยายาม​จะ​ยับยั้ง​กำลัง​ทหาร​ของ​ออสเตรีย​โดย​ประกาศ​ระดม​ทหาร​รัสเซีย​ประมาณ​หนึ่ง​ล้าน​นาย​ให้​มา​ประจำ​อยู่​ตาม​แนว​ชายแดน​ออสเตรีย. นั่น​จึง​ทำ​ให้​ชายแดน​ของ​รัสเซีย​ด้าน​ที่​ติด​กับ​เยอรมนี​ไม่​ได้​รับ​การ​ป้องกัน พระเจ้า​ซาร์​แห่ง​รัสเซีย​จึง​สั่ง​ให้​มี​การ​ระดม​พล​ทั้ง​หมด​ทั้ง ๆ ที่​ยัง​ลังเล.

พระเจ้า​ซาร์​พยายาม​จะ​รับรอง​กับ​ไคเซอร์​ว่า รัสเซีย​ไม่​มี​แผน​จะ​บุก​เยอรมนี. กระนั้น​ก็​ดี การ​ระดม​พล​ของ​รัสเซีย​ก็​ทำ​ให้​แผนการ​ทำ​สงคราม​ของ​เยอรมนี​เดิน​หน้า​เต็ม​ตัว และ​ใน​วัน​ที่ 31 กรกฎาคม เยอรมนี​จึง​เริ่ม​ดำเนิน​ตาม​แผน​รบ​ชลีฟเฟน โดย​ประกาศ​สงคราม​กับ​รัสเซีย​เมื่อ​วัน​ที่ 1 สิงหาคม และ​ประกาศ​สงคราม​กับ​ฝรั่งเศส​ใน​อีก​สอง​วัน​ต่อ​มา. เนื่อง​จาก​แผนการ​ทำ​สงคราม​ของ​เยอรมนี​กำหนด​ให้​เดิน​ทัพ​ผ่าน​เบลเยียม บริเตน​จึง​เตือน​เยอรมนี​ว่า​ตน​จะ​ประกาศ​สงคราม​กับ​เยอรมนี​ถ้า​ละเมิด​ความ​เป็น​กลาง​ของ​เบลเยียม. กองทัพ​เยอรมัน​เข้า​ไป​ใน​เบลเยียม​เมื่อ​วัน​ที่ 4 สิงหาคม. ไม่​อาจ​จะ​เลี่ยง​สงคราม​ได้​แล้ว.

“ความ​ล้มเหลว​ทาง​การ​ทูต​ที่​เลว​ร้าย​ที่​สุด​ใน​สมัย​ปัจจุบัน”

นัก​ประวัติศาสตร์​ชื่อ​นอร์แมน เดวีส์ เขียน​ว่า “การ​ประกาศ​สงคราม​ของ​บริเตน​เป็น​จุด​สุด​ยอด​ของ​ความ​ล้มเหลว​ทาง​การ​ทูต​ที่​เลว​ร้าย​ที่​สุด​ใน​สมัย​ปัจจุบัน. นัก​ประวัติศาสตร์​อีก​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เอดมันด์ เทย์เลอร์​ได้​เขียน​ว่า หลัง​จาก​ออสเตรีย​ประกาศ​สงคราม​ใน​วัน​ที่ 28 กรกฎาคม “ความ​สับสน​วุ่นวาย​เป็น​ปัจจัย​สำคัญ​ที่​กระตุ้น​ให้​เกิด [สงคราม]. มี​เหตุ​การณ์​หลาย​อย่าง​เกิด​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว​และ​ใน​หลาย​แห่ง. . . . แม้​แต่​คน​ฉลาด​เฉียบ​แหลม​และ​คิด​อย่าง​เป็น​ระบบ​ที่​สุด​ก็​ไม่​สามารถ​ประเมิน​และ​ซึมซับ​ข้อมูล​ที่​ประดัง​เข้า​มา​ได้.”

ทหาร​และ​พลเรือน​มาก​กว่า 13 ล้าน​คน​ต้อง​เสีย​ชีวิต​เนื่อง​จาก “ความ​สับสน​วุ่นวาย” ครั้ง​นั้น. ความ​คิด​ใน​แง่​บวก​เกี่ยว​กับ​อนาคต​และ​ความ​เป็น​มนุษย์​ก็​สูญ​สลาย​ไป​ด้วย​เมื่อ​ผู้​ที่​ถูก​เรียก​ว่า​อารยชน​จับ​อาวุธ​ที่​มี​อานุภาพ​ร้ายแรง​ที่​คิด​ค้น​ขึ้น​มา​ใหม่​และ​ผลิต​ใน​ปริมาณ​มหาศาล เข่น​ฆ่า​กัน​เอง​ใน​ระดับ​ที่​ไม่​เคย​เป็น​มา​ก่อน. โลก​ไม่​มี​วัน​จะ​กลับ​ไป​เหมือน​เดิม​อีก​แล้ว.—ดู​กรอบ  “สงคราม​โลก—สัญญาณ​ของ​ยุค​นี้​หรือ?”

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 7 ปัจจุบัน​บอสเนีย​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​สาธารณรัฐ​บอสเนีย​และ​เฮอร์เซโกวีนา.

^ วรรค 8 ปรินซิพ​สังหาร​ชายา​ของ​อาร์ชดุ๊ก​โดย​บังเอิญ. เขา​ตั้งใจ​ยิง​ผู้​สำเร็จ​ราชการ​แห่ง​บอสเนีย​คือ​นาย​พล​โปติโอเรค ซึ่ง​นั่ง​ใน​รถ​คัน​เดียว​กัน​นั้น​แต่​มี​อะไร​บาง​อย่าง​มา​กีด​ขวาง​ทำ​ให้​เขา​ยิง​พลาด​ไป.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 20]

 สงคราม​โลก—สัญญาณ​ของ​ยุค​นี้​หรือ?

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า สงคราม​จะ​เป็น​หนึ่ง​ใน​สัญญาณ​ที่​บอก​ถึง​สมัย​สุด​ท้าย​ของ​โลก​ชั่ว​ใน​ปัจจุบัน. (มัดธาย 24:3, 7; วิวรณ์ 6:4) เมื่อ​สัญญาณ​นั้น​เกิด​ขึ้น​จริง​ก็​แสดง​ว่า​เรา​กำลัง​เข้า​ใกล้​เวลา​ที่​รัฐบาล​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​จะ​ปกครอง​แผ่นดิน​โลก​อย่าง​เด็ดขาด​แล้ว.—ดานิเอล 2:44; มัดธาย 6:9, 10

ยิ่ง​กว่า​นั้น ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​จะ​ขจัด​อำนาจ​ที่​มอง​ไม่​เห็น​ซึ่ง​อยู่​เบื้อง​หลัง​เหตุ​การณ์​ใน​โลก คือ​กาย​วิญญาณ​ชั่ว​ที่​นำ​โดย​ซาตาน​พญา​มาร. 1 โยฮัน 5:19 กล่าว​ว่า “โลก​ทั้ง​โลก​อยู่​ใน​อำนาจ​ตัว​ชั่ว​ร้าย.” อิทธิพล​ชั่ว​ของ​ซาตาน​มี​ส่วน​ทำ​ให้​เกิด​ความ​หายนะ​หลาย​ครั้ง​หลาย​หน​กับ​มนุษยชาติ ซึ่ง​แน่นอน​ว่า​รวม​ไป​ถึง​เหตุ​การณ์​อัน​เลว​ร้าย​ที่​ทำ​ให้​เกิด​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1 ด้วย.—วิวรณ์ 12:9-12 *

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 30 จะ​พบ​ข้อมูล​เพิ่ม​เติม​เกี่ยว​กับ​สมัย​สุด​ท้าย​และ​กาย​วิญญาณ​ชั่ว​เหล่า​นี้​ได้​ใน​คู่มือ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ชื่อ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​อะไร​จริง​ๆ? จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

U.S. National Archives photo

[ภาพ​หน้า 19]

การ​ลอบ​สังหาร​อาร์ชดุ๊ก เฟอร์ดินันด์

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

© Mary Evans Picture Library