“อาจจะเป็นสักเพลงก็ได้”
“อาจจะเป็นสักเพลงก็ได้”
• จูเลียนาเป็นคริสเตียนสูงอายุที่น่ารักคนหนึ่งในฟิลิปปินส์ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์. เธอจำไม่ได้กระทั่งลูกตัวเอง. กระนั้นก็ตาม ฉันก็ยังไปเยี่ยมจูเลียนาทุกครั้งเมื่อไปแถวนั้น.
จูเลียนาต้องนอนอยู่กับที่และเอาแต่มองออกนอกหน้าต่าง. ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอยู่ใกล้ ๆ เธอ เนื่องจากเธอจำฉันไม่ได้แล้ว. เธอมองฉันด้วยดวงตาเบิกกว้าง แต่มองอย่างไม่มีชีวิตชีวาทั้งไม่แสดงอาการว่าจำฉันได้. ฉันถามเธอว่า “คุณยังคิดถึงพระยะโฮวาอยู่ไหม?” ฉันได้เล่าประสบการณ์ในงานรับใช้และถามเรื่องอื่น ๆ แต่เธอไม่แสดงอาการใด ๆ ว่าเธอเข้าใจ. แล้วฉันก็เริ่มร้องเพลงให้ฟัง. เหตุการณ์ต่อจากนั้นประทับใจฉันมาก!
จูเลียนาหันมามองฉันและเริ่มร้องเพลงตาม! ไม่นานฉันก็หยุด เพราะจำเนื้อเพลงภาษาตากาล็อกได้ไม่หมด. แต่จูเลียนายังคงร้องต่อไป. เธอจำเนื้อเพลงได้ทั้งสามท่อน. ฉันรีบขอให้คนที่อยู่ด้วยไปยืมหนังสือเพลงจากพยานฯ ที่อยู่ใกล้ ๆ. เธอกลับมาทันทีพร้อมกับหนังสือเพลง. ฉันจำหมายเลขของเพลงนั้นไม่ได้ แต่บังเอิญเปิดเจอพอดี. ตอนนี้เราร้องเพลงด้วยกันจนจบ! พอฉันถามจูเลียนาว่าจำเพลงอื่นได้ไหม เธอก็เริ่มร้องเพลงรักสมัยก่อนของชาวฟิลิปปินส์.
ฉันพูดว่า “ไม่ใช่นะ จูเลียนา ไม่ใช่เพลงจากวิทยุแต่เป็นเพลงจากหอประชุมสิ.” * แล้วฉันก็เริ่มร้องอีกเพลงหนึ่งจากหนังสือเพลงของเรา และเธอร่วมร้องไปด้วย. ดวงตาเธอเป็นประกาย. แววตาที่ว่างเปล่าก็หายไป และเธอยิ้มกว้างอย่างพอใจ.
พอถึงตอนนี้ เพื่อนบ้านวิ่งออกมาดูว่าเสียงร้องเพลงดังมาจากไหน. พวกเขายืนที่หน้าต่างและฟังพวกเราร้อง. ยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่เห็นว่าดนตรีประทับใจจูเลียนามากถึงเพียงนั้น! เสียงเพลงทำให้เธอจำเนื้อเพลงได้.
ฉันได้เรียนจากประสบการณ์นี้ว่า คุณไม่อาจรู้ได้ว่าอะไรจะสามารถเจาะทะลุความมืดทึบและเข้าถึงหัวใจของผู้คนซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถเข้าใจหรือสื่อความได้. อาจจะเป็นสักเพลงก็ได้.
ไม่นานหลังจากเหตุการณ์นี้ จูเลียนาก็เสียชีวิต. ฉันนึกถึงประสบการณ์นี้เมื่อได้ฟังเพลงใหม่ที่น่าประทับใจซึ่งพยานพระยะโฮวาได้ออกในปี 2009. คุณอาจต้องการสอบถามพยานฯ ในท้องถิ่นว่าจะขอรับเพลงที่ไพเราะและน่าประทับใจเหล่านี้ได้อย่างไร.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 5 สถานที่ประชุมของพยานพระยะโฮวา.